Wednesday, December 11, 2019

secrets : Possession


ผมมองตอบคิงที่มองจ้องมาด้วยความหิวกระหาย ใจเต้นระส่ำอยู่ภายในอกจากความตื่นเต้นที่ตีคู่มากับความหวาดหวั่นลึกๆนั้น ข้อมือทั้งสองข้างถูกมันกำแน่นแล้วกดลงแนบเตียง ใบหน้าหล่อคมเข้มซุกเข้าที่ลำคอ ปลายจมูกโด่งเป็นสันวาดลงมาตามรูปไหล่.....สูดดมกลิ่นกายที่ราวกับจะยิ่งเพิ่มอาการคลั่งให้กับมัน

"อึก..!! ทำอะไร?!"

ร้องถามออกไปทันทีที่มันกัดเข้าให้ตรงไหปลาร้า ผมเม้มปากยามที่ลิ้นอันช่ำชองนั้นละเลงวนไปตามรอยฟันที่มันสร้างคิงไม่ตอบอะไรผมแม้สักน้อย หนำซ้ำยังเพิ่มแรงที่กดข้อมือกันจนมันปวดเบาๆให้พอสะดุ้งด้วยความตกใจ

ผมเชิดคางขึ้นทันทีที่มันส่งลิ้นร้อนชื้นมาหยอกล้อยังยอดอก เสียงดูดจ้วบจ้าบจากปากดังกลบเสียงหายใจแรงๆของมัน มือของผมที่กำเกร็งก่อนหน้าคลายออกช้าๆตามอารมณ์เคลิบเคลิ้มที่มันสร้างให้ แล้วร่างก็กระตุกแรง หายใจผิดจังหวะเพราะฟันคมนั้นที่ครูดผ่านเม็ดอกไปให้เสียวซ่านจนหลุดร้องครางออกมา

คิงช้อนตามองผมด้วยแววตาร้ายกาจจนน่าผวา ฟันขาวที่เรียงตัวสวยงับกัดเข้าที่เนินเม็ดเล็ก แม้จะไม่ได้ออกแรงกัดจนถึงขั้นเจ็บปวด แต่ผมที่ไม่เคยรับรสชาติเช่นนี้มาก่อน ก็ถึงกับส่งเสียงครางต่ำภายในลำคอ

มันกระดกลิ้นรัวเร็วเหมือนคาดหวังจะให้ผมสำเร็จเสร็จเพียงการกระทำนี้ ต้นขาแน่นแข็งดุนดันที่กล่องดวงใจ 

ผมเผลอกลั้นหายใจในยามที่มันเลื่อนใบหน้าลงต่ำ มันคลายข้อมือที่กดและบีบแน่นออก ก่อนที่จะหันมาถอดปราการเล็กชิ้นสุดท้ายที่ผมสวมใส่ ลิ้นที่เปียกชื้นเล็มเลียลากไล้ต้นขาราวกับมันเป็นขนมหวานชวนน่าลิ้มลอง ผมเกร็งตัวทุกครั้งที่ปากนุ่มนั้นสร้างรอยสีสวยบนผิวเนื้อ ครั้งแรกและอาจเป็นครั้งสุดท้าย ที่มันไม่เกรงใจคำห้ามปรามของกันและกันอย่างที่เคยเป็นมาเสมอ

"ฮ่าห์..! คิง!!"

"เงียบน่า....มึงบอกกูเองให้ทำไรก็ทำ"

"อ๊ะ....แต่--"

คำพูดกลืนหายเมื่อปากร้อนครอบครองส่วนอ่อนไหว ผมหลับตาแน่น หลังลอยแอ่นขึ้นจากเตียงด้วยความเสียวที่ได้รับมือหนาจับขาทั้งสองข้างของผมแยกออกกว้าง ปลายเล็บจิกลงบนผิวเนื้อ ครูดขูดลากยาวสร้างความแสบที่ไม่คุ้นชิน

ลิ้นช่ำชองตวัดโลมเลียบำเรอให้จนตาพร่า มันดูดสลับกับละเลงรัวลงมาจนกายของผมบิดเร่า ผมจิกทึ้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความรู้สึกที่ได้รับ อยากจะกรีดร้องครางลั่นให้สมกับที่ใจเพรียกหา ความรุนแรงราวกับสัตว์ป่า ผมเพิ่งเข้าใจถ่องแท้ก็วันนี้ เสียวจนใจจะขาด สุขจนแทบบ้า

"..คิง.....เร็วไป"

ขยุ้มเส้นผมสีดำนุ่ม ผมมองมันผ่านม่านตาที่หรี่ปรือ ปากเผยอสั่นระริก ไม่เคยคิดจริงๆว่าเพียงการใช้ปากจะสร้างความรู้สึกเหล่านี้ได้

คิงหยุดการกระทำทั้งหมดลง มันถอนริมฝีปากออกมา แขนช้อนที่ใต้น่องขาของผม ก่อนที่จะยกหวือขึ้นแล้วพลิกร่างทั้งร่างให้ฟุบคว่ำลงราวกับน้ำหนักของผมเป็นเพียงขนนกบางเบา

การปรนเปรอเริ่มขึ้นอีกครั้งจากลิ้นร้อนอันมากประสบการณ์นั่น ผมซุกใบหน้าเข้ากับผ้าห่มหนา ยกสะโพกลอยค้างลมหายใจระส่ำ ยามที่มันสอดทะลวงเข้ามาในร่างด้วยอวัยวะภายในปาก ทั้งฉาบฉวยและรีบเร่ง แต่กลับเรียกเลือดในกายให้เต้นเร่าด้วยความหฤหรรษ์อันแปลกใหม่ คิงที่รุนแรงไร้ซึ่งความเห็นใจต่อการเล่นสนุกกับร่างกายของผม....ผมชอบมันเหลือเกิน

มือที่สั่นเทาเอื้อมไปจิกกลุ่มผมดำของคนด้านหลัง ผมแอ่นตัวเชิดคางปล่อยเสียงร้องออกมาในท้ายที่สุด ใจร้องร่ำปรารถนาให้มันทำมากขึ้นไปอีก

อีก...ผมอยากให้มันปู้ยี้ปู้ยำร่างกายนี้ตามที่มันต้องการ

คมฟันที่ฝังลงตรงบั้นท้าย เสียงดูดทำรอยที่น่าเขินอาย การถูกแต่งแต้มผิวเนื้อโดยคนที่ให้เกียรติในคำสั่งห้ามของผมมาโดยตลอดกลับสร้างความระทึกให้แก่กัน แม้ผมจะไม่ชอบและเคยกำชับไม่ให้มันทำรอยใดๆบนร่างกายนี้ แต่การถูกคุกคามไม่มีสิ้นสุดจากคนที่ทำตามใจตัวเอง มันยิ่งเพิ่มความใคร่ให้แก่กันจนผมใจเต้นถี่แรง

"กูจะทำให้มึงตายคาเตียง"

แม้เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอจะกระโชกโฮกฮากคล้ายเสียงคำรามจนร่างสั่นทัวด้วยความหวาดเกรง แต่คิงก็คือคิงสัมผัสจูบแผ่วเบาแม้เล็กน้อยที่ฝ่ามือ ก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผมได้ ว่าต่อให้มันจะเอ่ยอ้างถึงความรุนแรงที่จะกระทำต่อกันเพียงใด มันยังคงพยายามควบคุมจิตใต้สำนึกที่มีหลงเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองพลาดพลั้งให้กายของผมบอบช้ำมากจนเกินไป

"..อย่าเอาแต่ทำเป็นพูด..."

ผมกรีดร้องลั่นในทันทีที่สิ้นคำ เมื่อแท่งร้อนทะลวงเข้ามาในร่างอย่างไม่เห็นอกเห็นใจกัน ไม่มีการเตรียมพร้อมให้ไม่มีการเตือนล่วงหน้า แม้ปราการของผมจะคุ้นชินต่อการลุกล้ำเข้ามาของมัน แต่การไม่มีแม้แต่สิ่งหล่อลื่นใดๆก็ทำให้ช่องทางเจ็บแสบได้ไม่น้อย

"ฮื่มมมม"

เสียงครางด้วยความสุขสมใจ คิงจับสะโพกของผมมั่น ดุนดันแกนกลางเข้ามาไม่สนเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดของผม 

ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่กลีบปากนุ่มนั้นแต่งแต้มสีสันบนเรือนร่าง ทุกอณูขุมขนของร่างกายถูกมันฝังคมเขี้ยวลงไปอย่างไร้ความปราณี

"...ฮ่าห์ห์...!!!"

มือที่สั่นระริกจิกเข้ากับผืนผ้าปูที่นอนสีอ่อน แท่งร้อนที่สอดทะลวงขยับเข้าออกไม่ปล่อยให้ได้หยุดพักกอบโกยอากาศเข้าปอด ผมหลับตาแน่นจนน้ำสีใสไหลคลอที่ปลายหางตา กัดฟันรับแรงกระแทกที่แสบเสียด แต่กลับสร้างความระทึกในจิตใจจนน่าฉงน

"อ้าปาก"

คำสั่งเสียงพร่าที่เต็มไปด้วยอานุภาพ กลีบปากของผมเผยอออกทันทีราวกับมันกำลังตอบสนองโดยตรงต่อเสียงของคิง หาใช่ผมที่เป็นเจ้าของ ปลายนิ้วยาวจับเข้าที่ลำคอ มันออกแรงบีบแม้ไม่มาก แต่ก็สร้างความไม่สุขสบายขึ้นกับหลอดคอ แรงจากมือนั้นส่งผลให้ผมยันท่อนบนขึ้นสูง พยายามให้อากาศสามารถเข้าสู่ร่างกายได้มากที่สุดแม้จะยากเกินพรรณนา ปลายนิ้วจากมืออีกข้างสอดเข้ามาภายในช่องปาก แทงลึกเข้าไปจนถึงลำคอ กายกลางซอยเข้าใส่ จนเกิดเป็นเสียงผิวเนื้อของเราสองที่ดังกระทบกันลั่นห้อง

"แค่ก..! แค่ก...แค่ก!!"

ผมไอโขลกออกมาทันทีเมื่อนิ้วยาวนั้นแทงลึกเข้าไปจนขวางทางเดินหายใจ คิงดึงนิ้วของมันออกด้วยความว่องไวราวกับว่าการสำลักไอของผมจะเรียกสติที่เตลิดไปไกลของมันให้กลับมา มือที่บีบคอกันก่อนหน้าค่อยๆคลายลงช้าๆแต่สะโพกที่สวนเข้ามายังไม่มีทีท่าที่จะผ่อนความเร็วลงเลย

"ขอโทษนะ"

เสียงที่ดังแผ่วเบาราวกับสายลมเอื่อย หากไม่ใช่เพราะใบหน้าของมันที่อยู่ใกล้ใบหูกัน ผมคงจะนึกว่าตัวเองหูแว่วไปเสียด้วยซ้ำ จุมพิตนุ่มจากปากนั้นประทับลงบนหัวไหล่ ปลายจมูกคลอเคลียไปมา ก่อนที่ความเจ็บจะแล่นพร่าด้วยคมฟันที่ฝังลงลึกจนผมหลุดเสียงร้องออกมาลั่น

มันปลอบประโลมกันด้วยปลายลิ้นที่ลากวนผ่าน รอยแผลที่ถูกมันสร้างนั้นแสบร้อนราวกับโดนไฟเผา

แล้วใบหน้าของผมก็จมลงกับเตียง เมื่อมือหนากดหัวกันด้วยความแรง เล็บที่ตัดแต่งสั้นกุดลากครูดบนแผ่นหลัง ดั่งนกอินทรีที่ง้างใบเล็บเพื่อจับเหยื่อ

เพี้ยะ!!!

ฝ่ามือฟาดลงบนบั้นท้ายจนปวดแสบปวดร้อน ผมปลดปล่อยน้ำกามออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เสียงหัวเราะที่เย็นเยียบดังขึ้นจากด้านหลัง ราวกับมันกำลังชอบใจในร่างกายนี้ที่ตอบสนองต่อความรุนแรงที่มากกว่าปรกติของมันกว่าหลายเท่าตัว

ตาของผมปรือพร่าไม่อาจจับโฟกัสได้ ปากอ้ากรีดร้องเสียงแหบสั่นกับความเสียวซ่านที่กระทั้นแรงใส่จุดกระสัน เสียงจากฝ่ามือนั้นดังขึ้นอีกหลายครั้งหลายครา จนสองขาที่ไร้เรี่ยวแรงทรุดลงแนบกับพื้นเตียง

"ลุกขึ้นมา"

เป็นอีกครั้งที่ร่างกายของผมกลับเลือกที่จะทำตามคำสั่งของมัน ผมค่อยๆชันเข่าที่สั่นระริกขึ้นด้วยความยากลำบากแล้วก็ต้องฟุบลงแหมะตัวนาบเตียงในทุกครั้งที่คิงใส่แรงกระแทกเข้ามาจนคางสั่น

ความทรมานที่สุขสมจนแทบบ้า ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่ผมกัดฟันอดทนต่อความรุนแรงที่ราวกับหมายจะให้ร่างแหลกสลาย คิงคำรามครางเสียงต่ำที่เรียกให้เส้นขนของผมลุกชัน มันปลดปล่อยน้ำคาวเข้ามาในช่องทางบอบช้ำที่บีบรัดไม่ยอมหยุด สติสัมปชัญญะที่เลือนลางทำให้สมองไม่อาจสั่งการให้ผมขยับพลิกตัวไปไหนได้ ทำได้เพียงหอบหายใจอันสั่นเครือและภาวนาว่าทุกอย่างมันได้จบสิ้นแล้ว....ภาวนาว่าคนที่ลงอารมณ์ใส่กันจนร่างบอบช้ำจะรู้สึกเพียงพอเพียงเท่านี้

"ไหวมั้ยวะเยน กูรุนแรงไปใช่มั้ย"

จูบแผ่วเบาที่ไล้มาตามแผ่นหลัง ผมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ยามที่มันถอดถอนแก่นกายออกจากกัน

สัมผัสอ่อนโยนที่แตะลงบนกลุ่มผม ผมหลับตาลงช้าๆอย่างไม่อาจฝืนต่อไปได้มากกว่านี้ เสียงของคิงที่นุ่มนวลกว่าครั้งไหนๆแลดูราวกับอยู่ไกลออกไป ภาพดวงตาที่ส่งผ่านความห่วงใยคือสิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้ได้ ก่อนที่สติจะวูบดับลง

No comments:

Post a Comment